คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสินไหมรถยนต์

MyChubb Application ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานสินไหมที่เข้าใจความต้องการของลูกค้า มีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือช่วยอำนวยความสะดวกในการแจ้งอุบัติเหตุและการค้นหาข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ เมื่อลูกค้าของเราต้องการเคลมประกันภัยรถยนต์ ได้แก่ การแจ้งเหตุพร้อมเช็คตำแหน่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัยที่กำลังเดินทางไป ณ จุดเกิดเหตุ การแจ้งซ่อมเองแบบไม่มีคู่กรณีด้วยวิธีง่าย ๆ การค้นหาอู่ในพื้นที่ใกล้เคียง การประสานงานรถพยาบาลเพื่อนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด การประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ รถยก ตลอดจนการแจ้งข่าวให้สมาชิกในครอบครัวทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบริการคำแนะนำที่จะช่วยให้ลูกค้า่ผานพ้นเหตุการณ์นั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

คลิกเพื่อชมวีดีโอ

คลิกเพื่อชมวีดีโอ

คลิกเพื่อชมวีดีโอ

คลิกเพื่อชมวีดีโอ

คลิกเพื่อชมวีดีโอ

ท่านสามารถติดต่อศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลข 02-640-4500 และ 02-611-4455 เมื่อได้รับแจ้งจากท่านฯ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งจะช่วยอำนวยความสะดวกโดยเร็วที่สุด และได้แบ่งประเภทการแจ้งเคลม ดังนี้ 

เคลมสด หรือ การแจ้งเคลมในกรณีรถยนต์คันที่เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายค่อนข้างสูง หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ/เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว หรือผู้เอาประกันภัยไม่สามารถตกลงกับคู่กรณีได้ หรือเคลมที่บริษัทฯพิจารณาแล้วว่าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เจ้าหน้าที่สำรวจภัยของเราจะเร่งออกเดินทางไปพบท่าน ณ จุดเกิดเหตุในทันที โดยระยะเวลาในการเดินทางนั้นจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เกิดเหตุ อาทิเช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายใน 30-45 นาที และต่างจังหวัด 45-60 นาที

เคลมแห้ง (เคลมบริการ) หรือ การแจ้งเคลมที่มีความเสียหายเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น กรณีเฉี่ยวชนทรัพย์สินและความเสียหายบนตัวรถประกันมีมากกว่า 5 ชิ้นหลัก แต่ลูกค้าอาจยังไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้บริการในทันที 

** กรณีความเสียหายที่ต้องการแจ้งเคลมไม่เกิน 5 ชิ้นหลัก ลูกค้าสามารถแจ้งซ่อมเองผ่าน MyChubb Application  ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยบริษัทฯมีเป้าหมายสูงสุดที่จะลดขั้นตอนและระยะเวลาที่ลูกค้าอาจเสียไปกับการรอคอยเจ้าหน้าที่สำรวจภัยของเรา

หมายเลขโทรศัพท์แจ้งอุบัติเหตุที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 

Hotline โทร. 02-640-4500 (อัตโนมัติ) ตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อความรวดเร็วในการบริการ ควรแจ้งข้อมูลดังนี้

1. ชื่อผู้แจ้ง/ผู้ขับขี่
2. หมายเลขติดต่อผู้ขับขี่
3. ทะเบียนรถ ยี่ห้อ
4. สถานที่เกิดเหตุ
5. ลักษณะการเกิดเหตุ
6. ทะเบียนรถคู่กรณี

ข้อแนะนำหลังเกิดอุบัติเหตุ

1. ตั้งสติและไม่เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ
2. บันทึกทะเบียนรถของรถคู่กรณี รวมถึงหมวดจังหวัด และรายละเอียดยี่ห้อ , สีและรุ่น
3. ถ่ายรูปในที่เกิดเหตุไว้ด้วยกล้องถ่ายภาพหรือโทรศัพท์มือถือ
4. หากไม่ปลอดภัยหรือประสบเหตุฯ ในเวลากลางคืน หรือบริเวณที่เปลี่ยวไม่ควรลงหรือออกจากรถ
5. โทรแจ้งประกันภัยหรือ 191 เพื่อแจ้งเหตุ
6. ถ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บให้ขอความช่วยเหลือจากบุคคลใกล้เคียงหรือนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด

ข้อแนะนำในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับคดีจราจร

1. กรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม่ควรคิดหลบหนี ให้แจ้งเหตุกับพนักงานสอบสวน
2. ไม่ควรรับผิดชอบใดๆ หรือลงนามหนังสือ หรือเอกสารใดๆ กับพนักงานสอบสวนหรือผู้หนึ่งผู้ใด จนกว่าจะได้รับการแนะนำจากพนักงานบริษัท
3. แจ้งพนักงานบริษัททันที กรณีที่ถูกควบคุมตัวหรือพนักงานสอบสวนควบคุมตัวหลังเกิดอุบัติเหตุ
4. ควรทำประกันภัย พรบ. คู่กับประกันภัยประเภทอื่นๆ กับบริษัทประกันภัยเดียวกันตลอดเพื่อความสะดวกท่านและลดความเสี่ยงประเด็นข้อกฎหมาย

เมื่อรถยนต์ของคุณ "ถูกชนแล้วหลบหนี"

1. รีบจดหมายเลขทะเบียน และรูปพรรณสัณฐาน (ยี่ห้อ รุ่น สี และลักษณะพิเศษอื่นๆ) ของรถยนต์คันที่ หลบหนี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
2. แจ้งให้บริษัทฯ ทราบในทันทีเพื่อออกสำรวจอุบัติเหตุ
3. จดชื่อที่อยู่ของพยานในที่เกิดเหตุเอาไว้

เมื่อรถยนต์ของคุณ "ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึด"

1. ติดต่อกับพนักงานสอบสวน (ร้อยเวรเจ้าของสำนวน) เพื่อให้ตรวจสอบสิ่งของที่มีค่าอยู่ภายในรถยนต์ 
   เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานต่อไป และติดต่อบริษัทในทันทีเพื่อดำเนินการต่อไป 

กรณี "รถประกันภัยหาย"

1. โทรแจ้ง 191 เพื่อการติดตามที่ทันท่วงที แล้วไปแจ้งความกับสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ
2. โทรแจ้ง 1192 ศูนย์รับเรื่องรถหาย
3. โทรแจ้งบริษัทฯ ตรวจสอบอุบัติเหตุทันที
4. ส่งสำเนาบันทึกประจำวัน สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ และหลักฐานการแจ้งอายัด รถไปยังบริษัทฯ เพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รถยนต์สูญหาย 
   กล่าวคือ บริษัทฯจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน

เมื่อมี "ผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.)"

1. นำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือคลินิกที่ใกล้ และสะดวกที่สุด เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว 
   จดหมายเลขทะเบียนรถ ชื่อบริษัทประกันภัย หมายเลขกรมธรรม์จากเครื่องหมายแสดงการประกันภัย พ.ร.บ.
2. แจ้งเหตุให้ตำรวจทราบ
3. แจ้งบริษัทประกันภัยถึงเหตุที่เกิดขึ้น หรือกรณีไม่มีบริษัทประกันภัยในพื้นที่ ให้แจ้งเหตุที่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โทร. 0-2100-9191 ได้ทุกสาขา 
   โดยแจ้งวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุ
4. ติดต่อขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นและค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย หรือท่านอาจมอบอำนาจให้สถานพยาบาลขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นแทนได้ 
   (ท่านสามารถขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดเหตุ)
5. กรณีไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนรถที่เฉี่ยวชนได้ ให้ผู้บาดเจ็บนำเอกสาร (ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับและบัตรประจำตัวประชาชน) 
   ติดต่อขอรับค่าเสียหายจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งตั้งอยู่สำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัด
6. กรณีที่ไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่สามารถติดต่อบริษัทประกันภัย หรือประกันภัยจังหวัดได้ ท่านสามารถติดต่อที่บริษัทกลางฯ ทุกสาขา  
   บริษัทกลางฯ จะทำหน้าที่ประสานงานให้ด้วยความรวดเร็ว

1. ท่านสามารถนำส่งเอกสารประกอบการเจรจาค่าสินไหมฯได้ที่เคาน์เตอร์เคลมสำนักงานใหญ่ หรือสำนักงานสาขาฯทั่วประเทศ วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. - 17.30 น.

2. เจ้าหน้าที่สินไหมจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฯจะแจ้งผลการพิจารณาให้ท่านทราบภายใน 15 วัน

3. เจ้าหน้าที่สินไหมจะจัดเตรียมเอกสารเพื่อให้ท่านลงนามยินยอมรับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทฯ

4. บริษัทฯจะทำการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ท่านภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับเอกสารประกอบการรับค่าสินไหมทดแทนเรียบร้อยแล้ว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

1. ค่าเสียหายเบื้องต้นตามกรมธรรม์พ.ร.บ. : ภายใน 7 วันทำการ
2. ค่ารักษาพยาบาล : ภายใน 7 วันทำการ
3. ค่าเสียหายเกี่ยวกับรถยนต์ กรณีลูกค้าสำรองจ่าย : ภายใน 15 วันทำการ
   
   

วิธีการในการขอรับค่าสินไหมทดแทนรถยนต์

ติดต่อได้โดยตรงที่ที่ทำการของบริษัทฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ

สำนักงานใหญ่ และสาขา บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน)

สำนักงานใหญ่  โทร. 0 2555 9100 หรือ 0 2 611 4000

เชียงใหม่          โทร. 053 244 199-201

พิษณุโลก        โทร. 055 242 522-4

นครสวรรค์       โทร. 056 220 201-4

อุดรธานี          โทร. 042 325 641-3

อุบลราชธานี    โทร. 045 312 172-4

นครราชสีมา    โทร. 044 353 395-97

ขอนแก่น        โทร. 043 247 491-3

พัทยา            โทร. 038 196 992-4

ระยอง            โทร. 038 620 613-5

นครปฐม        โทร. 034 270 052-3

หัวหิน            โทร. 032 520 360-1

สุราษฎร์ธานี   โทร. 077 218 970, 077 219 031

หาดใหญ่        โทร. 074 364 782-4

ภูเก็ต            โทร. 076 354 613-5

นครศรีธรรมราช  โทร. 075 344 720-1